• Welcome to ลงประกาศฟรี โปรโมทเว็บ SEO SMF PBN.
 

🌏เจาะสำรวจดิน✅ สิ่งจำเป็น 🛒แต่คนมองข้าม ทำไมต้องเจาะสำรวจดิน?🛒

Started by deam205, Jul 30, 2024, 10:51 PM

Previous topic - Next topic

deam205

⚡🦖🎯โดยปกติแล้วเมื่อท่านทำการก่อสร้างบ้าน อาคารต่าง ๆ👉 ถ้าท่านไม่ใช่วิศวกรส่วนใหญ่ก็จะทำตามแนวทางที่ผู้รับเหมาก่อสร้างแนะนำ⚡ แต่ผู้รับเหมาบางราย📢ต้องการลดค่าใช้จ่าย✨ (ผมขอย้ำว่าบางราย ไม่ใช่ทุกรายนะครับ📌) ก็จะละเว้นการทดสอบบางอย่างที่เห็นว่าไม่จำเป็น⚡ ซึ่งสิ่งแรก ๆ ที่มักถูกตัดออกคือการเจาะสำรวจดิน👉 ในบทความนี้จะอธิบายให้ท่านเล็งเห็นถึงความสำคัญของการเจาะสำรวจดินก่อนการก่อสร้างอาคาร🌏 ว่าไม่ควรมองข้ามและมีประโยชน์อย่างไร🥇



🌏⚡✨🎯ความสำคัญของการเจาะสำรวจดิน📢📌🦖🎯⚡

1. เพื่อทราบชนิดและประเภทของดินใต้พื้นที่ก่อสร้าง⚡ เพื่อประเมินลักษณะเชิงกล📌 เพื่อเลือกฐานรากที่เหมาะสม🌏 หากดินมีความแข็งแรงเพียงพอ อาจเลือกใช้ฐานแผ่🌏
2. ทำให้ทราบความลึกของชั้นดินดาน (ดินแข็ง)🥇 ว่าอยู่ลึกลงไปเท่าไร เพื่อจะได้คำนวณกำลังรับน้ำหนักของเสาเข็ม🌏 และคาดคะเนความยาวเสาเข็มที่ต้องใช้ได้✨
3. ลดความผิดพลาดในการตอกเสาเข็ม✨ หากเจอชั้นดินแข็งแต่ไม่หนา ที่ชั้นความลึกน้อย ๆ🌏 อาจทำให้หยุดตอกเสาเข็มเพราะคิดว่าถึงชั้นดินแข็ง🦖 แต่จริง ๆ สามารถตอกทะลุลงไปได้หากเข่นลงไปอีกซักพัก🌏
4. หากดินในบริเวณสำรวจมีความผันผวนสูง🎯 วิศวกรอาจสั่งให้เจาะสำรวจดินหลาย ๆ หลุมเพื่อเปรียบเทียบ🛒 อาจต้องออกแบบฐานรากหลายแบบเพื่อก่อสร้างอาคารในบริเวณนั้น👉

✅👉📢🥇วิธีการเจาะสำรวจดินที่นิยม🦖🎯✅👉✅

1. การใช้เครื่องเจาะ Motorized Drilling Rig👉
เป็นเครื่องเจาะสำรวจดินที่สามารถขนย้ายเข้าจุดเจาะสำรวจดินได้แบบไม่ยุ่งยาก🌏 อีกทั้งยังเป็นที่ชื่นชอบของทีมเจาะสำรวจดิน🛒 ว่ากันด้วยเรื่องของความสะดวก🎯 และประหยัดเวลาในการติดตั้ง📌 ทำให้งานเจาะสำรวจดินเสร็จเร็วขึ้น ในที่นี้ขอกล่าวถึง การเจาะสำรวจดินแบบฉีดล้าง (Wash Boring)🥇 ก็จะเป็นในลักษณะของการใช้เครื่องสูบน้ำช่วยเจาะด้วยหัวกระทุ้ง (Chopping Bit)✨ ต่อจากก้านเจาะ✅ ปลายบนต่อกับหัวหมุนน้ำ🌏 ซึ่งจะต่อไปยังเครื่องสูบน้ำขณะทำการกระทุ้งดิน⚡ จะทำการสูบน้ำฉีดหัวเจาะผ่านรูก้านเจาะตลอดเวลา🛒 น้ำที่ฉีดจะไหลวนขึ้นมาพร้อมกับเศษดิน ซึ่งจะมาตกในบ่อน้ำวน จนได้ความลึกที่ต้องการเก็บตัวอย่าง
การเจาะตลอดความลึกของหลุมเจาะ ในชั้นดินเหนียวอ่อน🎯 หลุมเจาะจะมีขนาดเส้นผ่าศูนย์กลางประมาณ 4 นิ้วและลดลงเหลือ 3 นิ้ว ในดินแข็ง🥇 ระหว่างดำเนินการเจาะสำรวจดินก็ต้องมีการฝัง ท่อป้องกัน🛒 ขนาดเส้นผ่าศูนย์กลาง 4 นิ้วลงไปจนถึงดินแข็ง✅ เพื่อป้องกันการพังทลายของหลุม🦖 และใช้ Bentonite Slurry🎯 ช่วยป้องกันการพังในชั้นทราย🛒 ทำการเจาะจนถึงชั้นดินแข็งที่มีค่า SPT-N มากกว่า 50✅

2.การใช้เครื่องเจาะแบบ Rotary Drilling🎯
สามารถเจาะสำรวจดินได้กับทุกสภาพชั้นดิน📢 เป็นลักษณะของเครื่องเจาะสำรวจดินที่มีประสิทธิภาพสูง⚡ ด้วยระบบไฮดรอลิก (Hydraulic)🥇 เข้ามาช่วยเพิ่มประสิทธิภาพแทนแรงงานคน📢 สามารถเจาะได้ลึกกว่า 40 เมตร👉 โดยใช้เครื่องยนต์ Rotary Drilling Rig🥇 ที่ส่งกำลังแรงปั่นหัวเจาะลงไปลึก ๆ และอยู่ในระดับความเร็วที่ต้องการ🌏 ดินจะถูกนำขึ้นมาตาม flight auger👉
วิธีนี้เครื่องยนต์ใช้กำลังบิดสูง✨ ดังนั้นจึงมักเจาะช่วงสั้น ๆ เช่น 1.5 เมตร🥇 แล้วยกหัวเจาะขึ้น เพื่อนำดินออก🌏 แล้วจึงนำไปเจาะต่ออีก 1.5 เมตร📌 จึงสามารถตรวจลักษณะชั้นดินได้📌 การใช้หัวเจาะผนวกกับการเจาะสำรวจดินแบบฉีดล้าง👉 หรือจะเป็นไปในลักษณะของการเจาะสำรวจดินด้วยความเร็วสูง👉 ทำให้ตัดดินและปล่อยน้ำ🥇 โดยใช้แรงดันน้ำจากปั๊มน้ำแรงดันสูง🥇 เพื่อพาดินขึ้นมาที่ผิวดิน👉 เศษดินหรือหินจะถูกส่งขึ้นมาด้วยน้ำจากก้นหลุมเจาะด้วยหัวฉีดที่อยู่บริเวณหัวเจาะ✨ ในดินแข็งหลุมที่เจาะจะเปิดไม่พังทะลาย📌

แต่ในดินแบบ soft clay หรือ sand⚡ ต้องใช้ท่อเหล็กป้องกันการพังทลาย🥇 หรือใช้ drilling mud (น้ำผสมสาร Bentonite)📌 ผสมลงในน้ำที่ฉีดลงไปในหลุมเจาะ เพื่อป้องกันการพังทลายของหลุมเจาะ👉 นอกจากจะทำให้ผนังและหลุมเจาะไม่พังแล้ว ยังช่วยพาเอาวัสดุเม็ดใหญ่จากก้นหลุมขึ้นมาด้วย👉 เป็นเหตุให้หลุมเจาะสะอาด ในกรณีพบหินแข็งต้องเป็นหัวเจาะเพชรเพื่อกัดลงในชั้นหินให้ได้พร้อมเก็บตัวอย่างแท่งหิน🎯 จึงเรียกว่า การเจาะหิน (Rock Coring)🎯