• Welcome to ลงประกาศฟรี โปรโมทเว็บ SEO SMF PBN.
 

📢🛒การเจาะสำรวจดิน (Soil Boring Test) 📢จุดเริ่มต้นที่ดีของ🥇การก่อสร้าง✅

Started by Jessicas, Jul 30, 2024, 07:03 AM

Previous topic - Next topic

Jessicas

ลักษณะชั้นดินในหลายพื้นที่ของประเทศไทยอาจมีการแปรปรวน 👉ทำให้สภาพพื้นที่แตกต่างไปจากพื้นที่ทั่วไป ✅เช่น ชั้นทรายหลวมผิดปกติ ชั้นดินเหนียวอ่อน หรือระดับความลึกของชั้นดินที่แข็งแรงมีความผันแปรสูง 🎯เป็นต้น จากสภาพของชั้นดินดังกล่าว อาจทำให้ฐานรากพังได้ 🌏ซึ่งทำให้เกิดความเสียหายที่คาดไม่ถึง ก่อนที่การออกแบบฐานรากให้ดีและเหมาะสมนั้น 🌏จึงต้องจัดให้มีการเจาะสำรวจดินอย่างเพียงพอ เพื่อให้การออกแบบสิ่งก่อสร้างต่าง ๆ ถูกต้องตามหลักวิศวกรรมและละเอียดรอบคอบ 📢เพื่อการวิเคราะห์ดินอย่างละเอียด 🎯เมื่อทราบข้อมูลเกี่ยวกับดินในส่วนใดแล้ว จะต้องมีการวางแผนการสำรวจดิน เพื่อให้ประหยัดทั้งเวลาและค่าใช้จ่าย พร้อมกับได้ข้อมูลที่ถูกต้อง 🦖เพราะดินมีคุณสมบัติที่ซับซ้อนและเปลี่ยนแปลงไปตามสถานที่ต่าง ๆ 🦖จึงยังไม่มีวิธีใดที่เหมาะกับดินทุกประเภท📌



โครงสร้างหลาย ๆ อย่าง 🎯จะมีความแข็งแรง ต้องรองรับด้วยฐานรากที่มั่นคง ✅ในการออกแบบฐานราก การสำรวจชั้นดินมีบทบาทสำคัญเป็นอย่างมาก 🥇ที่จะทำให้วิศวกรสามารถออกแบบฐานรากอย่างปลอดภัยตามมาตรฐานวิศวกรรม 🌏สำหรับขอบเขตและรายละเอียดของงานสำรวจขึ้นอยู่กับลักษณะโครงการ 🎯และสภาพชั้นดิน 👉โดยวิศวกรออกแบบควรเป็นผู้กำหนดรายละเอียดของการสำรวจชั้นดินเพื่อให้ได้ข้อมูลที่จำเป็นต่อการวิเคราะห์และออกแบบอย่างเพียงพอ 📢บริการทดสอบดินและจัดทำรายงานวิเคราะห์ความยาวเสาเข็ม โดยวิศวกรผู้เชี่ยวชาญ👉

การสำรวจดินเบื้องต้น 🥇เป็นการเจาะหรือขุดดินเพียงเล็กน้อย ✅เพื่อต้องการทราบชนิดของดิน การเรียงตัวของชั้นดิน 🥇ระดับน้ำใต้ดินและอื่น ๆ อันจะเป็นประโยชน์ในการเตรียมเครื่องมือและวางแผนงานได้ดี 📢ส่วนการเจาะดินโดยละเอียดนั้น เป็นการวางแผนเจาะดินอย่างละเอียดเกี่ยวกับการเจาะสารวจชั้นดิน ✨โดยทั่วไปจะระบุ จุดเจาะดิน จำนวนหลุมเจาะดิน ความลึกของหลุมสำรวจ🦖 การทดสอบด้านใดบ้าง 🥇โดยปกติแล้วจะต้องการข้อมูลสำหรับการวิเคราะห์ความแข็งแรงของดินและการคำนวณการทรุดตัวของสิ่งก่อสร้าง🌏

👉📢🌏การเก็บตัวอย่างดินมี 2 ลักษณะ คือ✨🥇🛒

👉1. ดินที่ถูกรบกวน (Disturbed Sample) 🦖เป็นดินที่ถูกกระทบกระเทือน 📢จนทำให้โครงสร้าง หรือการจับตัวของเม็ดดินเปลี่ยนไป 🛒หรืออาจจะสูญเสียความชื้นในดิน อาจเกิดจากวิธีการเก็บตัวอย่างดิน👉 กระบวนการขนส่ง และการเก็บรักษา 🛒ซึ่งได้แก่ตัวอย่างดินที่ได้จากการทดสอบด้วยสว่านมือ ✨และตัวอย่างดินที่ตอกด้วยกระบอกผ่า ดินที่ได้ไม่สามารถนำไปทดสอบด้านการรับน้ำหนักของดินได้ 👉เนื่องจากดินได้รับผลกระทบจากการกระแทก การอัด 🌏ซึ่งโครงสร้างของดินได้เปลี่ยนไป แต่สามารถใช้จำแนกประเภทของดิน🥇

✅2. ตัวอย่างดินคงสภาพ (Undisturbed Sample) 🦖เป็นดินที่เก็บจากสนาม 🌏โดยพยายามให้โครงสร้างและองค์ประกอบของดินยังคงเหมือนเดิมตามธรรมชาติ 📢ซึ่งได้แก่ตัวอย่างดินที่เก็บด้วยกระบอกบางเส้นผ่าศูนย์กลางตั้งแต่ 3 นิ้วขึ้นไป 🥇ถือว่าเป็นตัวอย่างดินคุณภาพสูง ⚡สามารถนำไปทดสอบคุณสมบัติต่าง ๆ ในห้องปฏิบัติการได้เกือบทุกประเภท ✅รวมถึงการทดสอบความแข็งแรงและการรับน้ำหนักของดิน🌏